โรคเกลื้อน

อาการ มีลักษณะเริ่มแสดงอาการโดยมีจุดสีขาวหลายจุดอยู่โดยรอบรูขุมขน ในบริเวณที่เหงื่อออกมาก และ

มีไขมันสูงด้วย เช่น รักแร้ ซอกคอ หลังใบหน้า หน้าอก อวัยวะเพศ จากจุดเล็กหลายๆ จุดรวมตัวกันแผ่ขยายใหญ่ขึ้นเป็นแผ่นที่ไม่มีขอบเขต ซึ่งในคนผิวคล้ำแผ่นหรือผื่นจะมีสีขาว ในขณะที่คนผิวขาวจะมีผื่นสีน้ำตาล บางคนก็เป็นสีแดง โดยที่ไม่ค่อยมีอาการคัน เกลื้อน เกิดจากเชื้อรากลุ่ม มาลาสซีเซีย เฟอร์เฟอร์ ติดต่อจากการคลุกคลีกับผู้ที่เป็นโรคนี้

การรักษา เมื่อขูดผิวหนังบริเวณรอยโรคมาส่องด้วยกล้องจุลทรรศน์ พบเชื้อเกลื้อน รักษาด้วยการ
1. ทายา ซึ่งมี 2 รูปแบบคือ
  • ยาน้ำทา อย่างเช่น 20% โซเดียมทัยโอซัลเฟต เหมาะกับผื่นเกลื้อนที่เป็นมากๆ
  • ยาฆ่าเชื้อราชนิดครีม ได้แก่ โคลไตรมาโซล ไมโครนาโซล ครีม เหมาะกับผื่นเกลื้อนที่เป็นบริเวณไม่กว้างมาก
2. ใช้สบู่ หรือแชมพู ที่มีส่วนผสมของสารคีโตโคนาโซล หรือสารเซเลเนียมซัลไฟด์ โดยใช้หลังจากอาบน้ำ ฟอกตัวให้สะอาดด้วยสบู่ธรรมดาตามปกติ เมื่อเสร็จแล้วอย่าเพิ่งเช็ดน้ำที่ติดบนผิวหนังออก แต่ใช้แชมพูยา ลูบไปทั่วบริเวณที่เป็นทิ้งไว้ 5 นาที แล้วจึงอาบน้ำล้างแชมพูออก อย่าปล่อยทิ้งแชมพูยาให้อยู่บนผิวหนังนาน เพราะอาจเกิดอาการระคายจากแชมพูยาได้
3. ยาฆ่าเชื้อราชนิดรับประทาน จะใช้เฉพาะในรายที่เป็นมาก และควรใช้ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ เพราะยารับประทานอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้ นอกจากนี้ยายังมีราคาแพง ยารับประทาน เช่น คีโตโคนาโซล 200 มก. วันละ 1 ครั้ง 5 วัน หรือทานยาฆ่าเชื้อราร่วมด้วยต้องใช้เวลานาน 1-2 เดือน แต่ร่องรอยแผ่นเกลื้อนจะยังอยู่อีก 2-3 เดือน จึงจะมีสีผิวเป็นปกติเหมือนเดิม

สามารถใช้สมุนไพรรักษากลาก ได้ดังนี้
1. ให้ใช้ใบแมงลักสด 10 ใบ ล้างน้ำให้สะอาด ตำให้แหลก เติมน้ำลงไปเล็กน้อย คั้นเอาน้ำมาทากลากน้ำนม วันละ 1 ครั้ง นาน 1 สัปดาห์
2. นำใบชุมเห็ดเทศ 3-4 ใบ มาตำให้ละเอียด เติมน้ำมะนาวนิดหน่อย ทาบริเวณที่เป็นวันละ 2-3 ครั้ง
3. ใช้เหง้าข่าสดกับเหล้าโรง หรือน้ำส้มสายชู หรือเหง้าสด ตำแล้วแช่อัลกอฮอล์ ทาบริเวณที่เป็นเกลื้อน เช้า-เย็น
4. เอาหัวข่าแก่ๆ ล้างให้สะอาด ฝานเป็นแว่นบางๆ หรือทุบพอแตกนำไปแช่เหล้าขาว ทิ้งไว้สัก 1 คืน เอามาทาถูแรงๆ บริเวณที่เป็นเกลื้อน จนพอแดง จะรู้สึกแสบๆ เย็นๆ ทาเช้า-เย็น หลังการแช่เหล้า 1 คืน ทำให้ตัวยาออกมามากขึ้น