โรคไข้สมองอักเสบเจอี
อาการ หลังจากคนโดนยุงที่มีเชื้อเจอีกัด 7-10 วัน
จะเริ่มแสดงอาการ (มีเพียง 1 ใน 300
คนเท่านั้น) ไข้สูง
ปานกลาง ปวดศีรษะมาก และเวียนศีรษะ คอแข็ง อ่อนเพลีย คลื่นไส้ อาเจียน
กลัวแสง กล้ามเนื้อเกร็ง แข็ง หรือชักกระตุก คอแข็ง ง่วงซึม
อาการเหล่านี้จะเป็นอยู่นานนับสัปดาห์ ผู้ป่วยจะซึมลงเรื่อยๆ
จนกระทั่งไม่รู้สึกตัว ในเด็กที่มีอาการรุนแรงจะทำให้เป็นอัมพาต แขนและขาชัดเกร็ง
หมดสติ และมีอัตราการเสียชีวิตสูง
แต่คนส่วนใหญ่ได้รับเชื้อโดยไม่มีอาการเจ็บป่วยแต่อย่างใด
แต่ในรายที่เป็นรุนแรงมากจะเสียชีวิตในวันที่ 7-9 ของโรค
บางคนมีอาการของเยื่อหุ้มสมองอักเสบเท่านั้น คือ คอแข็ง กล้ามเนื้อขาปวดตึง
ง่วงซึม แต่ไม่มีอัมพาต และไม่หมดสติ เมื่อรักษาหายจะกลับมาเป็นปกติ
บางรายเป็นอย่างเรื้อรัง อาการแสดงจะค่อยเป็นค่อยไป อาจมีไข้หรือไม่ก็ได้
การดำเนินโรคช้า แต่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
สาเหตุ เกิดจากเชื้อไวรัสเจแปนนิส เอนเซฟาไลติส หรือเรียกย่อว่า เจอี
ถ่ายทอดได้จากคน สัตว์ปีก สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม
จึงพบระบาดมากในแหล่งที่มีการเลี้ยงสัตว์ โดยมียุงเป็นพาหะเชื้อมาสู่คน
ไม่มีการแพร่โดยตรงจากคนไปสู่คน ไม่มีการแพร่โดยตรงจากคนไปสู่คน
ในเด็กมีอาการรุนแรงกว่าผู้ใหญ่ เชื้อเจอีอาศัยอยู่ในสัีตว์ปีก
สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม สัตว์ป่า สัตว์เลี้ยง หมู แพะ หนู นก ค้างคาว ไก่ เป็ด
โดยไม่ทำให้สัตว์มีอาการผิดปกติ
จึงเป็นแหล่งกระจายเชื้อซึ่งระบาดในท้องถิ่นภาคเหนือ
มีแต่คนและม้าเท่านั้นที่ได้รับเชื้อแล้วแสดงอาการป่วย

การรักษา ควรไปพบแพทย์ตั้งแต่มีอาการไข้ ปวดศีรษะ อาเจียนบ่อย ง่วงซึม
หรือมีอาการชัก ซึ่งจะมีเพื่อหาสาเหตุของโรค เช่น ตรวจหาภูมิคุ้มกันต่อเชื้อ (anti-JE IgM) เป็นต้น
โดยเจาะ 2 ครั้ง ห่างกัน 2 สัปดาห์
ตรวจคลื่นสมอง ตรวจน้ำไขสันหลัง หากไม่พบภูมิคุ้มกันต่อเชื้อเจอี
แล้วมีอาการทางสมอง มักต้องทำการเจาะหลัง (lumbar puncture) เพื่อตรวจน้ำไขสันหลัง
ค้นหาสาเหตุของโรคที่มีอาการใกล้เคียงกัน เช่น มาลาเรียขึ้นสมอง
เยื่อหุ้มสมองอักเสบ หรือเจาะหลังเพื่อการรักษาลดความดันในสมอง เป็นต้น
ปัจจุบันยังไม่มียารักษาโดยตรง แพทย์จะให้การรักษาตามอาการ อย่างเช่น ให้ยาลดไข้
ให้ยาแก้ชัก เช่น ไดอะซีแพม เป็นต้น ฉีดเข้าหลอดเลือดดำ หรือเหน็บทางทวารหนัก
ถ้ามีภาวะขาดน้ำให้น้ำเกลือชดเชยน้ำที่เสียไป
ผลการรักษาขึ้นอยู่กับว่าไปพบแพทย์เร็วและวินิจฉัยได้
- · สำหรับคนที่มีอาการไม่รุนแรง จะหายเป็นปกติได้ภายใน 2-3 สัปดาห์
- · ถ้ารุนแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเด็กเล็กและผู้สูงอายุ ซึ่งมีภูมิต้านทานต่ำ มีโอกาสเสียชีวิตถึงร้อยละ 25 ภายใน 1 สัปดาห์
- · ผู้ที่มีอาการรุนแรง หากรอดชีวิตมักมีความพิการ หรือผิดปกติทางสมองตามมา เช่น นอนนิ่งๆ ได้แต่ กะพริบตา สติปัญญาเสื่อม กล้ามเนื้ออ่อนแรง แขน ขาเป็นอัมพาต สมองพิการ ปัญญาอ่อน เป็นโรคลมชัก เป็นต้น
โรคนี้ป้องกันได้โดยให้เด็กไปรับวัคซีนตั้งแต่อายุ 1-3 ปี ฉีด 2 เข็ม ห่างกัน 1-2 สัปดาห์ ปีต่อมาจึงฉีด 1 เข็ม เป็นอันครบชุด และสามารถป้องกันโรคได้
นอกจากนี้ควรกำจัดยุงรอบบ้านให้หมดสิ้นไป สำหรับโรคอื่นที่อาการใกล้เคียงกัน เช่น
มาลาเรียขึ้นสมอง เยื่อหุ้มสมองอักเสบ โรคบาดทะยัก เป็นต้น